
การควบคุมคุณภาพยา( Medical QC. )

การควบคุมคุณภาพยา( Medical QC. )
การควบคุมคุณภาพ หมายถึง กระบวนการหรือกลไกลภายในหน่วยงานหรือระบบที่มีไว้เพื่อมั่นใจว่า การปฏิบัติงานบรรลุถึงมาตรฐานแห่งคุณภาพการดำเนินงานได้ตามแผนที่วางไว้อย่างรัดกุมทุกขั้นตอนเพื่อกำกับดูแลและพัฒนาการดำเนินงานให้บรรลุตามเกณฑ์ที่กำหนด ดังนั้นการควบคุมคุณภาพยาในคลัง ในที่นี้จึงมีความหมายถึงการมีระบบขั้นตอนการทำงาน การดูแลสภาพแวดล้อมขณะยาอยู่ในคลังมีการตรวจสอบยาให้อยู่ในสภาพเดิมอย่างสม่ำเสมอที่ทำให้ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้รับบริการจะได้ที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับยาที่พึ่งออกมาจากการผลิตของโรงงานทีเดียว
Thank you for reading this post, don't forget to subscribe!เป้าหมาย
การควบคุมคุณภาพ มีเป้าหมาย คือ ยามีการจัดเก็บยาถูกต้องตามมาตรฐาน ยาไม่เสื่อมสภาพ ไม่หมดอายุ มีเพียงพอ พร้อมใช้ และสามารถป้องกันการปนเปื้อน การสูญหาย
ปัจจัยที่ส่งผลต่อคุณภาพยาในคลังยา
* สภาพแวดล้อม: อุณหภูมิ ความชื้น แสงสว่าง การระบายอากาศ
* บรรจุภัณฑ์: สภาพของบรรจุภัณฑ์ ความสมบูรณ์ของฉลาก
* ระยะเวลาการเก็บรักษา: ยาแต่ละชนิดจะมีอายุการใช้งานที่แตกต่างกัน
* วิธีการจัดเก็บ: การจัดเรียงยา การแบ่งประเภทยา
มาตรการควบคุมคุณภาพยาในคลังยาที่ต้องคำนึงถึง
* เลือกสถานที่จัดเก็บ: สถานที่จัดเก็บควรสะอาด ป้องกันความชื้น
และมีอุณหภูมิที่เหมาะสม
* จัดแบ่งพื้นที่: แบ่งพื้นที่จัดเก็บยาออกเป็นโซน เช่น ยาควบคุม
ยาสามัญประจำบ้าน ยาที่ต้องเก็บในอุณหภูมิต่ำ
* ตรวจสอบสภาพยา: ตรวจสอบสภาพของยาเป็นระยะๆ เพื่อดูว่ามีการเปลี่ยนแปลงของสี
กลิ่นหรือรูปร่างหรือไม่
* บันทึกข้อมูล: บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับยาที่เข้า-ออกคลังยา อุณหภูมิ
ความชื้นในคลังยา
* ฝึกอบรมบุคลากร:
ฝึกอบรมบุคลากรที่เกี่ยวข้องให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดเก็บยาอย่างถูกวิธี
ตัวอย่างของการจัดเก็บยาที่ไม่ถูกต้อง
* การจัดเก็บยาใกล้แหล่งความร้อน: เช่น เตาอบ หม้อน้ำ
อาจทำให้ยาเสื่อมสภาพได้เร็วขึ้น
* การจัดเก็บยาในที่ที่มีแสงแดดส่องถึงโดยตรง: แสงแดดอาจทำให้ยาสลายตัวได้
* การจัดเก็บยาที่หมดอายุ: การใช้ยาที่หมดอายุอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
การควบคุมคุณภาพยาในคลังยา เป็นส่วนหนึ่งของระบบการบริหารจัดการยาที่ดี ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าผู้ป่วยจะได้รับยาที่มีคุณภาพและปลอดภัย การบรรลุเป้าหมายมีแนวทางในการจัดการดังนี้
•สถานที่เก็บยาต้องเป็นระบบปิด สามารถ เข้า ออก
หรือหยิบจ่ายยาได้เฉพาะเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมเท่านั้น
•เก็บยาในที่อากาศถ่ายเทสะดวกไม่อับชื้น
และไม่มีแสงแดดส่องถึงโดยตรงหากมีหน้าต่างแดดส่องต้องจัดหาม่านปังแดด
หรือฟิล์มกันแสง และความร้อนผ่าน
•มีการบันทึกอุณหภูมิ
ค่าความชื้นสัมพัทธ์ เพื่อตรวจสอบ สภาพแวดล้อมให้มี สภาพตามที่เรากำหนด ทุกวัน
อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง อาจเลือกช่วงเวลาตรวจสอบในช่วงเวลาที่มีความเสี่ยง
•จัดเก็บยาตาม
Addressของยาเพื่อลดความผิดพลาดในการจัดและจ่ายยารวมทั้งเพิ่มความสะดวกในการทำงาน
แยกตามชนิดรูปแบบยาเตรียมได้แก่ ยาเม็ด ยาน้ำ และ ยาฉีด
เป็นต้นโดยอาจเรียงตามตัวอักษร หรือ การออกฤทธิ์เพื่อให้ง่ายต่อการหายา
และควรเก็บยาอย่างเป็นสัดส่วนไม่ปะปนกันเพื่อให้สะดวกในการค้นหาและหยิบใช้ยา
•การจัดเก็บยาที่เบิกมาจากคลังเวชภัณฑ์หรือห้องจ่ายยา
ควรเรียงลำดับการจัดเก็บแบบ First In - First Out
โดยยาที่เบิกมาก่อนวางไว้แถวหน้าเพื่อให้หยิบใช้ก่อน
และพิจารณาร่วมกับการดูวันหมดอายุของยา ยาใดหมดอายุก่อน วางไว้แถวหน้า
•ยาทุกตัวควรมีวันหมดอายุของยา โดยวันหมดอายุของยาจะพิมพ์ด้วยข้อความ
“วันหมดอายุ” , “ควรบริโภคก่อน” ,“Exp. Date” , “Use before” , “Best by” ,
“Best before” หรือ “Exp.” การระบุบางครั้งบอกเป็น วัน/เดือน/ปี ,เดือน/วัน/ปี
หรือ เดือน/ปี กรณีที่วันหมดอายุบอกเป็น “เดือน/ปี”
ให้ใช้ถึงวันสุดท้ายของเดือนนั้น แต่ยาบางขนานบอกเพียงวันผลิต ได้แก่ “วันผลิต”
หรือ “Mft. Date” การกำหนดวันหมดอายุของยากลุ่มนี้ให้นับจากวันผลิตของยา 3
ปี(โดยต้องเก็บในภาชนะบรรจุเดิม และสภาพการเก็บรักษา
ตามที่ระบุจากบริษัทเท่านั้น)
•ยาเสพติดและวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท
ต้องแยกเก็บจากยาทั่วไป โดยมีตู้ใส่กุญแจล็อค
เพื่อป้องกันการนำยาไปใช้ในทางที่ผิด
•กำหนดให้มีการติดตั้งตัววัดอุณหภูมิและความชื้นห้องเนื่องจากอุณหภูมิและความชื้นเป็นปัจจัยหลักที่มีผลต่อการเก็บรักษายา
พร้อมทำแบบฟอร์มการบันทึก
•กำหนดให้มีการติดตั้งตัววัดอุณหภูมิตู้เย็น
พร้อมทำแบบฟอร์มการบันทึก